แนะนำหลบ 5 กับดักทางการเงิน รับโปรโมชั่น สล็อต 100 กับดักที่ทำให้การเงินคุณแย่ พลาดโอกาสทางการเงิน ประสบความสำเร็จช้าลง มีเหลือเงินตอนเกษียณ
สารบัญ
- 1 หลบ 5 กับดักทางการเงิน รับโปรโมชั่น สล็อต 100
- 2 5 กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย Phil Town
- 2.1 อย่าซื้อรถยนต์ที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว BUYING A CAR OUT OF YOUR PRICE RANGE
- 2.2 อย่าซื้อบ้านที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหวBUYING A HOME OUT OF YOUR PRICE RANGE
- 2.3 กินข้าวนอกบ้านมากเกินไปSPENDING TOO MUCH GOING OUT
- 2.4 ชำระหนี้บัตรเครดิตมากเกินไปPAYING TO MUCH FOR CREDIT CARD BILLS
- 2.5 ไม่คิดที่จะลงทุนใด ๆ เลยNOT INVESTING
หลบ 5 กับดักทางการเงิน รับโปรโมชั่น สล็อต 100
บางทีการจะนำเงินมาเล่นสล็อตสนุก ๆ หาสมัครเว็บเดิมพัน รับโปรโมชั่น สล็อต 100 เราก็แอบสงสัยว่า ใช้เงินผิดพลาดไปไหม เพราะเกมที่มามากมาย เป็นทางเลือกให้ความสนุกของตัวเองกับ เว็บพนันออนไลน์ ถ้าหากการนำเงินมาเล่นเดิมพันนั้นเป็นส่วนเงินก้อนที่คุณจัดสรรมาอย่างดีและเป็นก้อนเงินที่คุณแบ่งมาเพื่อการใช้จ่ายเพื่อความสุข ย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณนำเงินส่วนอื่นมาเล่น นั่นคือจุดที่คุณต้องพิจารณาตัวเอง แต่การนำเงินที่แบ่งสันปันส่วนมาเพื่อความสุขตัวเองมาใช้จ่ายนั้น กลับไม่ได้เป็นผลเสีย กลับกันเงินที่เราคิดว่าเป็นส่วนที่ถูกต้องบางส่วนนั่น กลับเป็นความคิดผิดพลาดของเราก็ได้ ทั้งที่เราคิด คนอื่น ๆ คิด คนรอบข้างก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่ามันคืออะไรบ้าง เคยสงสัยกันไหม
5 กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง โดย Phil Town
Phil Town นักลงทุนชาวอเมริกัน นักพูด และนักเขียน New York Time Bestseller เจ้าของผลงาน RULE no.1 โดยในปี 2020 เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 150 ล้านบาท ได้ให้คำแนะนำว่า ในฐานะที่เขาผ่านช่วงวัย 30 หรือวัยกลางคนมาก่อน เขาพบว่ามีกับดักทางการเงินมากมาย ที่ทำให้คนวัยทำงานนั้นประสบความสำเร็จทางการเงินได้ช้าลง ซึ่งจะส่งผลให้คนส่วนใหญ่มักมีเงินไม่พอใช้หลังเกษียณอายุ หรือบางคนก็แทบไม่มีเงินใช้เลยด้วยซ้ำ โดยหลัก ๆ จะมีกับดักทางการเงินอยู่ด้วยกัน 5 อย่างก็คือ
อย่าซื้อรถยนต์ที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว
BUYING A CAR OUT OF YOUR PRICE RANGE
Phil ได้เล่าว่าเมื่อตอนที่เขาเริ่มลงทุนใหม่ ๆ ในช่วงนั้นจู่ ๆ เขาก็สามารถทำเงินได้อยู่ที่เราราว ๆ 83,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 2.5 ล้านบาท ซึ่งสิ่งที่เขาทำเมื่อได้เงินก้อนนี้มาเลยก็คือ ตรงดิ่งไปที่โชว์รูมรถของจากัวร์ แล้วก็ถอยรถใหม่ออกมาทันที ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ที่เขาซื้อมันก็เพราะ เวลาที่เขาขับมาแล้วดูหรูดูเท่ เวลาเขาไปเจอใครที่ไหนก็มีแต่คนชื่นชมเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากที่เขาซื้อรถมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เขาก็เริ่มคิดได้ว่าแทบไม่มีใครสนใจรถหรู ๆ ของเขาอีกต่อไป ดังนั้นข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์นี้ก็คือ จงอย่าซื้อรถหรูเพียงเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนที่คุณไม่ชอบ หรือคนที่ไม่ชอบคุณ หรือแม้กระทั่งคนที่คุณไม่รู้จัก ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าอยากอวดคนอื่นว่าฉันนั้นก็มีปัญญาซื้อรถหรู เหมือนกัน เพราะพวกเขาไม่ได้แคร์คุณตั้งแต่แรกด้วยซ้ำไป
ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่คุณต้องการก็คือการเดินทาง หากคุณเลือกรถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง มันก็มีหลากหลายราคาให้คุณเลือกซื้อ เพราะรถจะถูกจะแพงก็ติดไฟแดงเหมือนกัน ขอแค่กันลมกันฝนได้ก็ตอบโจทย์การเดินทางได้แล้ว เหตุผลที่ต้องระวังก็ เพราะการซื้อรถยนต์นั้น มักเป็นหนึ่งในเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตของคนเรา ที่ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จทางการเงินได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น แถมสิ่งที่น่าตกใจก็คือ มูลค่าของรถยนต์นั้นเพียงแค่คุณถอยรถออกมาได้ประมาณ 1 ปี มูลค่าของรถยนต์จะหายไปราว ๆ 30% และมูลค่าจะหายไปกว่าครึ่ง เมื่อตอนใกล้หมดปีที่ 3 ของการออกรถยนต์ ทั้ง ๆ ที่สมรรถนะของรถยนต์ยังดีอยู่แท้ ๆ ดังนั้นการเลือกซื้อรถมือสองที่มีอายุใช้งานสัก 3 ปี ในราคาครึ่งเดียวของราคารถใหม่ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยในการเซฟเงิน เพื่อนำเงินส่วนต่างไว้ลงทุนให้มันงอกเงย
อย่าซื้อบ้านที่เกินกำลังที่ตัวคุณจ่ายไหว
BUYING A HOME OUT OF YOUR PRICE RANGE
บ้านคือสิ่งที่แพงที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่ง ที่จะซื้อหามาในครอบครองเลยก็ว่า แต่ส่วนใหญ่เวลาที่เราทำเรื่องกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ก็มักจะกู้ในอัตราแบบเต็มเหนี่ยวของเงินเดือน หรือเต็มเหนี่ยวของรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน นั้นแสดงว่าเมื่อรวมค่าผ่อนบ้านกับค่าใช้จ่ายรายเดือน ที่จ่ายอยู่แล้วเข้าด้วยกัน มันจะทำให้เงินเดือนหรือรายรับของคุณเต็มพิกัด ไม่เหลือเงินไว้ใช้อย่างอื่นอีก เช่น กันเงินไว้ในเงินสำรองฉุกเฉิน หรือกันเงินไว้เพื่อการลงทุน และนอกจากนั้นมันจะทำให้ชีวิตการสมรสเกิดความเครียด และมีโอกาสที่จะทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องของเงินได้ และแน่นอนว่าคุณจะเจอภาวะที่มีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เดือนไหนการเงินสะดุด คุณจะมีปัญหาการเงินทันที เริ่มหมุนไม่ทัน เริ่มกู้หนี้ยืมสินมาโปะ บริหารใช้หนี้ใช้สินไม่ดี กลายเป็นยิ่งแย่ ยิ่งกู้หนี้ยิ่งเพิ่ม
สุดท้ายก็อาจจะต้องขายบ้าน ไปหาบ้านเช่าที่อื่นแทน หรือหนักหน่อยก็อาจจะโดนยึดบ้านต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แถมยังเสียเครดิตในการทำธุรกรรมอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่ง Phil แนะนำว่าทางที่ดีกว่าการเรียบร้อยซื้อบ้านเกินตัวนั้นก็คือ ให้คุณจับตาราคาบ้านในท้องที่ ที่คุณเล็งจะซื้อเอาไว้ว่า ราคาตลาดนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเจอบ้านที่มีราคาต่ำกว่า หรือราคาย่อมเยากว่าในตลาด และอยู่ในช่วงราคาที่คุณจ่ายไหว ก็ค่อยคิดเรื่องการซื้อบ้านก็ยังไม่สาย
ในอีกแง่นึงก็คือ ให้คุณมองหาบ้านที่ประกาศขายที่สามารถต่อรองได้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่ต้องการขายบ้านนั้น ร้อนเงิน รีบใช้เงิน ส่วนใหญ่จะต่อรองได้เยอะ และคุณก็มีโอกาสที่จะได้บ้านในราคาที่ถูกกว่าปกติ อีกวิธีหนึ่งก็คือ หากในพื้นที่นั้น ๆ กำลังเจริญแต่ตอนนี้ยังเป็นพื้นที่รกร้าง หรือห่างไกลอยู่ แต่ภายในไม่กี่ปีจะมีศูนย์การค้ามาเปิด จะมีแหล่งท่องเที่ยวมาเปิด จะมีโครงการสร้างตึกสร้างหมู่บ้านใหม่แถวนั้น หรือแม้กระทั่งจะมีถนนสายหลักตัดผ่าน คุณก็อาจเริ่มค้นหา และมองทำเลบ้านดี ๆ แถบนั้นเอาไว้ เพราะหากคุณซื้อในตอนนี้ก็จะยังคงได้ราคาบ้านในราคากลาง ๆ ก่อนที่มันจะกลายเป็นบ้านที่ราคาสูง เมื่อกลายเป็นหมู่บ้านที่เจริญแล้ว
กินข้าวนอกบ้านมากเกินไป
SPENDING TOO MUCH GOING OUT
หลายคนพอได้ยินถึงข้อนี้แทบจะอุทานออกมาทันทีเลยว่า อุตส่าห์เหนื่อยกับการทำงานมาทั้งวัน จะไม่ให้ไปผ่อนคลายนอกบ้านกันบ้างเลยหรือไง แล้วถ้ามันไม่ใช้จ่ายนอกบ้านบ้างจะหาเงินกันไปทำไมละเนี่ย ในข้อนี้ Phil ไม่ได้ต้องการบอกว่าห้ามกินเที่ยวนอกบ้านเลย แต่ให้เราควบคุมการกินนอกบ้าน ในวงเงินที่เรากำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะหากคุณลองจดรายการการใช้จ่ายนอกบ้านดี ๆ คุณจะพบกับความจริงอันน่าตกใจว่า นี่คือรายจ่ายที่ทำให้หลาย ๆ คน ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือเงินหมดตั้งแต่ยังไม่สิ้นเดือน ต้องพึ่งพาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันอีกแล้ว ยกตัวอย่างเช่น
สมมุติว่าเราไปกินร้านอาหารนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชาบู ปิ้งย่าง บุฟเฟต์ หรือฟาสต์ฟู้ด ที่ดูเหมือนราคาต่อครั้งจะไม่มากมายอะไร แต่ถ้าเทียบกับราคาการกินข้าวที่บ้าน หรืออาหารจานเดียวก็จะพบความแตกต่างที่น่าสนใจ ลองมาดูตัวอย่างกัน สมมุติว่าเรากินข้าววันละ 3 มื้อ ถ้ากินข้าวอาหารจานเดียวง่าย ๆ ตกมื้อละ 50 บาท ใน 1 วันเราจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 150 บาท เผื่อค่าขนมขบเคี้ยวอีก 50 บาท เหมารวมไปเลยว่างบวันละ 200 บาท ซึ่งถ้าใครใช้เยอะกว่านี้ก็ลองเปรียบเทียบงบประมาณตัวเองได้ ถ้าตกวันละ 200 บาทใน 1 เดือนจะมีค่าข้าวอยู่ที่ 6,000 บาทโดยประมาณ ที่นี้สมมุติว่ามื้อเช้ากับกลางวัน ก็ยังคงกินอาหารจานเดียวอยู่เหมือนเดิม แต่มื้อเย็นเรากินข้าวนอกบ้านทุกวันจะได้ว่า 50+50+400 หรือตกวันละ 500 บาทโดยประมาณ ใน 1 เดือนเราจะมีค่าอาหารอยู่ที่ 15,000 บาท
จะเห็นได้ว่าจากเดิมที่กินแบบปกติ ถ้าหากออกไปกินข้าวเย็นนอกบ้านทุกวัน ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นถึง 9,000 บาท หรือคิดเป็น 2.5 เท่าเลยทีเดียว หรืออาจจะคิดได้อีกแบบนึงว่า กินแบบที่ 2 ได้เดือนเดียว แต่สามารถกินแบบที่ 1 ได้ถึง 2 เดือนครึ่ง โดย Phil เล่าว่า คนที่เขารู้จักใช้วิธีการควบคุมรายจ่าย จากการไปกินข้าวนอกบ้าน ด้วยวิธีการกำหนดงบประมาณตั้งแต่เงินเดือนออก โดยเขาจะเก็บเงินกินข้าวนอกบ้าน ถอนเก็บเอาไว้ในซองล่วงหน้า แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เงินในซองหมด เขาก็จะรู้ตัวทันทีว่าเดือนนี้งบหมดแล้ว ก็จะยับยั้งการไปทานข้าวนอกบ้านโดยอัตโนมัติ
ชำระหนี้บัตรเครดิตมากเกินไป
PAYING TO MUCH FOR CREDIT CARD BILLS
หนี้บัตรเครดิตถือเป็นหนี้ที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่มีระบบการติดหนี้ที่เคยมีมา โดยเฉพาะหนี้ที่มาจากการอุปโภค บริโภค ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ติดหนี้บัตรเครดิตได้อย่างง่ายดาย แถมออกจากวงการนี้ก็ยาก และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มจ่ายเงินเต็มไม่ไหวเข้าสู่การจ่ายแบบขั้นต่ำเมื่อไหร่ นั่นแสดงให้เห็นว่าการเงินของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว แถมซ้ำร้ายไปกว่านั้น หลายคนกลับเลือกที่จะเปิดบัตรเครดิตใหม่ แล้วเอามาผ่อนใบเก่าทำเป็นงูกินหางไปเรื่อย ๆ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ แบบไม่มีที่สิ้นสุด และมันจะลุกลามไปสู่การจ่ายไม่ไหว ซึ่งดอกเบี้ยที่ทางบัตรเครดิตนั้น สูงจนน่าตกใจโดยอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ราว ๆ 18-25% ในขณะที่การลงทุนแบบทั่วไปได้กำไร 10% ก็ถือว่าเก่งแล้ว แต่ก็ยังได้ไม่ถึงครึ่งของดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้ลงทุนเก่งแค่ไหนถ้ายังเสียหนี้บัตรเครดิตอยู่ ก็ล้มเหลวทางการเงินอยู่ดี
ไม่คิดที่จะลงทุนใด ๆ เลย
NOT INVESTING
หลาย ๆ คนเลือกที่จะลงทุนในระยะสั้น ๆ เพื่อเป้าหมายประเดี๋ยวประด๋าวเปรียบเสมือนกับการวิ่ง 100 เมตร แต่อย่าลืมว่าการจะก้าวไปสู่จุดหมายที่เรียกว่าอิสรภาพทางการเงินนั้น มันเป็นการวิ่งมาราธอนในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในระยะยาว ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบ การวางแผนทางการเงินเพื่ออิสรภาพทางการเงิน เป็นเรื่องของความสมดุลระหว่าง การจับจ่ายใช้สอย การกำจัดหนี้สินในปัจจุบัน และการสำรองเงินไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้นโดยทริคสั้น ๆ ที่ Phil ทิ้งท้ายเอาไว้ ที่เขามักจะชอบใช้ก็คือทุกครั้งที่เขาได้รับรายได้มา เขาจะตัดออก 10% ทันที เพื่อจ่ายให้ตนเองก่อน แล้วค่อยเอาเงินส่วนที่เหลือ ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงจ่ายภาษีด้วย และทุกครั้งที่เขาจ่ายฟุ่มเฟือย เขาจะหักอีก 10% นำไปไว้ในบัญชีการลงทุนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองใช้จ่ายมากเกินไป
นี่ก็คือ 5 กับดักทางการเงินที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะเป็นสิ่งที่ คนโดยปรกติทั่วไปเข้าใจว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร บางคนเรียกว่าความยั่งยืน แต่ความยั่งยืนที่เกินกำลัง มันกำลังทรมานคุณอย่างช้า ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัว ในขณะที่คุณเริ่มเหลือเงินน้อยลง หลายคนอาจต่อว่าเพราะคุณเอาเงินมาเล่นพนันไง เล่นเดิมพันไง ชีวิตถึงได้วอดวาย แต่เขาไม่รู้ว่าคุณใช้เงินที่ได้จัดการแบ่งส่วนเพื่อตัวคุณเองอยู่แล้ว มาสมัครเล่นรับโปรโมชั่น สล็อต 100 เพียงแต่การจัดสรรเงินอื่น ๆ ที่ถูกต้องเช่นกันนั้น กลับถูกไปใช้กับสิ่งที่เรียกว่า พลาด เกินตัวมากไปต่างหาก ทั้งที่เว็บเดิมพันมีทั้งการทดลองเล่นฟรีได้ หรือสมัครเติมขั้นต่ำเท่าไหร่ก็ได้ แถมยังมีโรปเติมเงิน แล้วรับเพิ่ม 100 % หรือรับโปรโมชั่น สล็อต 100 ก็ยังมี เล่นขั้นต่ำ 1 บาท เท่านั้นเอง ไม่ได้ใช้เงินในการเติมความสุขให้ตัวเองมากมายอะไรเลย สนใจเดิมพัน สมัครได้เลยที่ : สล็อตออนไลน์